วสันต์ ยอดอิ่ม (Wasant Yod-Im)
.jpg)
สิมพื้นถิ่นในเขตภาคอีสานตอนบน
การศึกษาสถาปัตยกรรมสิมพื้นถิ่นในเขตอีสานตอนบน มีความมุ่งหมายที่จะ ศึกษารูปแบบสิมทางด้านประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ในเขตอีสานตอนบน 7 จังหวัด ด้วยวิธีการศึกษารวบรวมหลักฐานจากอาคารสิมจำนวน 40 หลัง ทำการ เปรียบเทียบจัดกลุ่มรูปแบบและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมนำมาวิเคราะห์ร่วมกับ ปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรมของชุมชน
ผลการศึกษารูปแบบสิมแบ่งได้ 4 รูปแบบ ดังนี้
1.
สิมก่อผนังรูปแบบดั้งเดิม แบ่งเป็น 2 แบบดังนี้
1.1
สิมก่อผนังรูปแบบดั้งเดิมขนาดใหญ่ โครงสร้างเป็นแบบผนัง รับน้ำหนัก หลังคาเป็นเครื่องไม้ทรงจั่วนิยมยกคอสองให้สูงขึ้น ฐานและตัวสิม ก่อด้วยอิฐ ช่วงเสาแรกนิยมทำมุขหน้าเป็นโถง
1.2
สิมก่อผนังรูปแบบดั้งเดิมขนาดเล็ก โครงสร้างเป็นแบบผนัง รับน้ำหนัก หลังคาเป็นเครื่องไม้ทรงจั่ว ทำประตูเข้าออกทางเดียว ฐานและตัวสิม ก่อด้วยอิฐ
2.
สิมก่อผนังรูปแบบผสม แบ่งเป็น 2 แบบดังนี้
2.1
สิมก่อผนังรูปแบบผสม แบบไม่มีมุขหน้า ทำประตูเข้าออก ทางเดียว โครงสร้างเป็นผนังรับน้ำหนัก ประดับตกแต่งด้วยปูนปั้นซุ้มโค้งครึ่ง วงกลม
2.2
สิมก่อผนังรูปแบบผสม แบบมีมุขหน้า โครงสร้างเป็นแบบผนัง รับน้ำหนัก ฐานก่อด้วยอิฐ นิยมประดับตกแต่งด้วยช่อฟ้า แผงนาค โหง่ ผสมกับการ ปั้นปูนเป็นซุ้มโค้งครึ่งวงกลมที่หน้าบันและเหนือกรอบประตูหน้าต่างตามระเบียบ อาคารฝรั่งสมัยอาณานิคมโดยช่างชาวญวน
3.
สิมโถง มีขนาดเล็ก ฐานก่อด้วยอิฐ หลังคาเป็นเครื่องไม้ชายคาจะต่ำ ด้านหน้าและด้านข้างเปิดโล่ง นิยมทำผนังเฉพาะด้านหลังพระประธาน
4.
สิมไม้รูปแบบพื้นบ้าน อยู่ในหมู่บ้านชนบทห่างไกล ก่อสร้างด้วย เครื่องไม้ทั้งหลัง ฐานก่อด้วยอิฐปั้นลม แผงจั่วทำด้วยไม้แกะสลัก สิมพื้นถิ่นของชาวอีสานตอนบนยังคงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสืบต่อ พระพุทธศาสนาและสืบทอดตามคติความเชื่อดั้งเดิมกำหนดให้ สิมเป็นเขตพื้นที่ ไว้ใช้ทำสังฆกรรมของสงฆ์เท่านั้น ตั้งอยู่ในตำแหน่งจุดเด่นในผังบริเวณของวัด อาจจะมีขนาดและรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานภาพของชุมชนแต่ละช่วงเวลา
The Vernacular Sim in the Top Area of the North Eastern Part
The main propose of this education is to study about the composition of the vernacular SIM in the top area of the north eastern part in seven provinces, by education composition from many evidence of SIM churchs amount 40 ea and then bring to arrangement group of composition and analysis compare with custom of public the conclusion able to arrange be 4 groups as follows :
1.
Original SIM style able to separate 2 styles as follows:
1.1
SIM big size wall, the structure is base wall and roof is made of wood gable style mostly is a high front porch, base made of brick, the post mostly curve of front porch.
1.2
SIM general original style, it is a small size and one way entry, structure of wall as base, the roof is one shelf of gable wood without.
2.
SIM Mixed style
2.1
SIM mixed wall style front porch and one way entry, structure is base wall decorate with half circle cement.
2.2
SIM mixed style base on with front porch, structure is base on made of brick decorate with chowfar and oak line mix combine with half circle cement and front and above flame of door follow western style
3.
SIM hall small size base on brick roof made of short wood style the front and beside open concept with gable line cave wood.
4.
SIM local style is in so far country constructed with hole wood building, base on brick and also decorate extension of the apex of the gable cave wood. The vernacular SIM in the top area of the north eastern part still have important role in the process of succeeding the buddhist and seeding the original traditional follow motto and which having miraculous area for monk ceremonies only. Setting in the stand out of temple area the size and style may be changed depending on the suitable condition of public each age time.
ชื่อวิทยานิพนธ์ : สิมพื้นถิ่นในเขตภาคอีสานตอนบน (The Vernacular Sim in the Top Area of the North Eastern Part)
ชื่อนิสิต : วสันต์ ยอดอิ่ม (Wasant Yod-Im)
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา : รศ ฤทัย ใจจงรัก วนิดา พึ่งสุนทร (Asso Prof Ruthai Chaichongrak Wanida Pnungsunthorn)
ชื่อสถาบัน : มหาวิทยาลัยศิลปากร. บัณฑิตวิทยาลัย (Silpakorn University. Nakornpathom. (Thailand). Graduate School)
ระดับปริญญาและรายละเอียดสาขาวิชา : วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต. สถาปัตยกรรมศาสตร์ (ประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม) (Master. Architecture (History Architecture))
ปีที่จบการศึกษา : 2545
ภาษาที่ใช้เขียนวิทยานิพนธ์ : 974-653-603-6
ISBN : 278 P.
