ฮุปแต้มอีสาน, สิมอีสาน (Isan Mural Painting and Isan Temple Architectures)
 สิม หอไตร ฮูปแต้ม

(วางเมาส์บนรูปภาพ เพื่อดูส่วนขยายภาพ)

+ เพิ่ม | - ลด ขนาดตัวอักษร      

วัดศรีธรรมาราม (วัดหลวงตาพวง) จ.ยโสธร
      วัดศรีธรรมาราม (พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ) ธรรมยุตินิกาย เป็นวัดเก่าแก่ เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในเขตชุมชนบ้านสิงห์ท่า ในอดีตเจ้าเมืองยโสธร พระสุนทรราชวงศา (เหม็น) ได้บูรณะวัดศรีธรรมาราม ในปี พ.ศ. 2416 และเป็นสถานที่จำพรรษาของหลวงปู่พวง สุขินทริโย พระเกจิอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บรรยากาศโดยรอบวัดสงบเงียบ อยู่ติดกับแม่น้ำชี บรรยากาศร่มเย็น พื้นที่กว้างสวยงาม

      ประวัติหลวงพ่อพระสุก
      พระสุก พระเสริม พระใส เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2091-2114 พร้อมกับพระเจ้าองค์ตื้อ สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาะิราช แห่งอาณาจักรล้านช้าง (สปป.ลาว ในปัจจุบัน) สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ลงความเห็นว่า เป็นพระพุทธรูปล้านช้าง ที่งดงามยิ่งกว่าพระพุทธรูปองค์อื่นๆ และทรงสันนิษฐานว่า สร้างโดยฝีมือ " ช่างลาวพุงขาว "
      พระสุก พระเสริม พระใส ได้ถูกอัยเชิญมาไว้ที่ฝั่งไทย สมัยรัชกาลที่ 3 คราวปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ ผู้อัญเชิญมา คือ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แต่ขณะอัญเชิญข้ามแม่น้ำโขงมานั้น พระสุก มีเหตุให้ต้องจมลงในแม่น้ำโขง โดย พระเสริม กับพระใส ได้ประดิษฐานอยุ่เมืองหนองคาย
      ในเวลาต่อมา ได้มีการอัญเชิญ พระเสริมและพระใส มาประดิษฐานที่กรุงเทพ โดยผู้ที่นำการอัญเชิญครั้งนั้น คือ พระสุนทรราชวงศา (เหม็น) เจ้าเมืองยโสธร ลำดับที่ 4 (ผู้บูรณะวัดศรีธรรมาราม ในปี พ.ศ. 2416) แต่การอัญเชิญครั้งนั้น นำไปได้เฉพาะ พระเสริม ส่วนพระใส มีเหตุไม่สามารถนำไปได้ สำหรับพระสุกนั้น ยังจมอยู่ในแม่น้ำโขง
      คราที่พระยาอุดรศรีโขมสาครเขตต์ ดำรงตำแหน่งปลัดมณฑลอุดล พ.ศ. 2467 ช่วงเวลานั้นท่านได้ใช้นักโทษประหาร ทำการค้นหาพระสุก จนพบในแม่น้ำโขง แต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย
      และคงเป็นบุญของชาวจังหวัดยโสธร ที่จะได้ดูแลรักษา "หลวงพ่อพระสุก" ท่านจึงได้มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ (พิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณ - หลวงตาพวง สุขินทริโย)

      ประวัติหลวงตาพวง พระเทพสังวรญาณ
      หลวงตาพวง เป้นบุตรนายเนียมและนางบับพา ลุล่วง เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ปี เถาะ ที่บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร (ในปัจจุบัน) มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน หลวงตาเป้นบุตรคนที่ 4 และมีน้องชายที่ลำดับถัดจากหลวงตา คือ หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ
      เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 หลวงตาได้มีโอกาสติดตามรับใช้ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล คราวที่ท่านะุดงค์ไปแถบเมืองจำปาสักดิ์ หลี่ผี สี่พันดอน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลวงตาได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เดือนมีนาคม พ.ศ. 2484 เคยร่วมจำพรรษากับ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และ ได้อุปสมบท ณ พระอุโบสถกลางน้ำ ที่บ้านหนองโคก ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ปี พ.ศ. 2491 มีพระเดชพระคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป้นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
      พรรษาที่ 2 ปี พ.ศ. 2492 ได้ร่วมจำพรรษากับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร หลังจากหลวงปู่มั่นมรณภาพ ปี พ.ศ. 2493 ได้จำพรรษาร่วมกับ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ บ้านธาตุนาเวง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร พรรษาที่ 6 ปี พ.ส. 2496 ได้ร่วมกับหลวงปู่ฝั้นบุกเบิกถ้ำขาม ซึ่งหลวงตาเป็นเรี่ยวแรงที่สำคัญ พรรษาที่ 9 ปี พ.ศ. 2499 กลับบ้านเกิด บ้านศรีฐาน เพราะโยมบิดาเสียชีวิต พรรษาที่ 11 ปี พ.ศ. 2501 ได้รับการแต่งตั้งเป้นเจ้าอาวาสวัดสรีฐาน ในพรรษาที่ 21 ปี พ.ส. 2511 เป้นเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม พรรษาที่ 61 พ.ศ. 2552 ถึงแก่ มรณภาพ
      ตั้งแต่ยังเด็ก หลวงตาได้รับใช้ใกล้ชิด พระคณาจารย์ องค์สำคัญๆ ทำให้ท่านได้ซาบซึ้งในหลักการปฏิบัติ " การได้ครูอาจารย์ที่ดี พร้อมทั้งการฝึกฝน ใฝ่รู้ ด้วยตนเอง นำเอาคุณธรรมที่ได้ มาประพฤติปฏิบัติ " ทำให้ผลที่เกิดขึ้น คือ คุณประโยชน์สิ่งดีงามแก่สังคม ถ้าจะกล่าวว่า หลวงตา คือ " เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี " ก็คงเป้นสิ่งที่ ทุกผู้คนให้การยอมรับ

      ประวัติพระยาอุดรธานีศรีโขมสาครเขตต์ (จิตร จิตตะยโศธร)
      พระยาอุดรธานีศรีโขมสาครเขตต์ (จิตร จิตตะยโศธร) กล่าวได้ว่าท่านคือ ปูชนียบุคคล ที่สำคัญท่านหนึ่งของชาวจังหวัดยโสธร ท่านได้สร้างคุณประโยชน์แก่แผ่นดินเกิดของท่านเป็นอย่างยิ่ง และได้อุปถัมภ์วัดศรีธรรมาราม มาโดยตลอดจนปัจจุบัน       ท่านเกิด วันอังคารที่ 25 พฤษภาคา พ.ศ. 2429 เป้นบุตรคุณพ่อมี (อดีต พระอาจารย์มี คัมภีโร แห่งวัดศรีธรรมาราม) ชาวบ้านใผ่ใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี และคุณแม่อำคา ชาวเมืองยโสธร ท่านกำพร้าบิดา ขณะอายุเพียง 4-5 เดือน แต่ด้วยบุญวาสนา ทั้งอุตสาหะ มานะ พยายาม ท่านคือ ครูคนแรกของจังหวัดยโสธร และคราวที่ท่านอุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ. 2449 มี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (บิดาแห่งการศึกษาพระปริยัติธรรม) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค ได้สนองงานสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป้นที่พอพระทัย เมื่อท่านจะลาสิกขา พ.ศ. 2455 ทรงมีรับสั่งว่า
      " เราเกิดมาเป็นมนุษย์ จะต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่โลก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตามสมควรแก่ฐานะและอัตภาพ"
      คราวที่ท่านรับราชการที่กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2455 ได้สนองงาน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (บิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย) ได้อย่างยอดเยี่ยม ครั้งหนึ่งทรงรับสั่งว่า " เสียดายที่แกไม่ทัน สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ 5) ถ้าทันคงจะโปรด "
      โดยพื้นฐานทางนิสัยของพระยาอุดรธานี ท่านเป้นผู้มี ความกตัญญูกตเวที สำนึกในบุญคุณ ผู้ที่ให้การอุปการะเป้นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ยังเล็ก จนเติบใหญ่ในหน้าที่การงาน ที่สำคัญคือ ท่านได้อัญเชิญ พระพุทธรูปขัดเงา สร้างยุคเวียงจันทน์นามว่า "คัมภีรพุทธเจ้า" มาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดศรีะรรมาราม ความบูรณะพระอุโบสถ (ปี พ.ศ. 2467 - 2473) ซึ่ง "คัมภีรพุทธเจ้า" นี้ จากการสืบค้นทำให้ทราบว่า คือ "หลวงพ่อพระสุก " นั่นเอง
      ท่านพระยาอุดรธานี เคยกล่าวไว้ว่า " คนเรา แม้รู้จักสิ่งอื่นร้อยแปดอย่าง แต่ถ้าขาดความรู้จักตน เสียอย่างเดียว ก็นับว่า ขาดหลักสำคัญในการดำเนินชีวิต "


     

      พิพิธภัณฑ์หลวงตาพวง
      พิพิธภัณฑ์หลวงตาพวง เป็นทรงจตุรมุข รูปเจดีย์ ขนาดฐานกว้าง 31.5 เมตร สูง 33.4 เมตร สร้างที่วัดศรีธรรมาราม จังหวัดยโสธร ออกแบบโดย น.ส.วนิดา พึ่งสุนทร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบประเพณี) ประจำปี 2556 มีกำหนดจัดงานครั้งแรก ในวันที่ 2 เมษายน 2556 ครบรอบ 4 ปี หลวงตาพวง ละสังขาร จะมีพิธีทำบุญตักบาตร ,ทอดผ้าป่า, พิธีบวงสรวง และพิธีวางศิลาฤกษ์พิพิธภัณฑ์การก่อสร้าง จะสร้างในนามลูกศิษย์หลวงตาพวงทุกคน ไม่กำหนดเวลาแล้วเสร็จ จะใช้แรงงานจากลูกศิษย์ ขณะนี้มีช่างก่อสร้าง สมัครมาทำโดยไม่ขอค่าแรงแล้ว 2 อำเภอ จะจ้างเฉพาะช่างชำนาญงานเท่านั้น วางศิลาฤกษ์ 2 เมษายน 2556 เปิด 2 เมษายน 2558 (หลวงตาช่วงละสังขารไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2552)

      หอไตรกลางน้ำ
      หอไตรกลางน้ำ หรือห้องสมุดหอไตร วัดศรธรรมาราม ตามจารึกที่ประตูกำแพงก่ออิฐถือปูน จารึก พ.ศ. 2504 ตามจารึกแผ่นไม้แกะตัวอักษร ข้อความว่า " ห้องสมุดหอไตร วัดศรีธรรมาราม ปี ๒๕๒๔ " รูปแบบการก่อสร้าง เป็นหอไตรกลางน้ำ คือ ตั้งอยู่ในสระน้ำ มีกำแพงปูนล้อม เดินได้โดยรอบ มีกำแพงปูนสูงประมาณ 1 เมตรล้อมโดยรอบ มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ด้านหน้าทางเข้า ส่วนด้านหลังเว้นช่องทางเข้า-ออก แต่ไม่มีซุ้มประตู       รูปแบบทางสถาปัตยกรรม หอไตรสร้างด้วยไม้ ตั้งอยู่บนเสาไม้ 25 ต้น 5 แถว รูปทรงสี่เหลี่ยม ผนังทำด้วยแผ่นไม้ หน้าต่างกระจกขอบไม้ หน้าต่างด้านข้างมี 4 บาน ด้านหลังมี 3 บาน บันไดเทปูนเสาไม้ หลังชั้นเดียวคามุงแผ่นโพลีคาร์บอเนตลอนลูกฟูก (คิดว่าเป็น แผ่นลอนแบบสังกะสีลอนเล็ก อันนี้ไม่แน่ใจ หากเป็นสังกะสีน่าจะเป็นสนิม มีรูแหว่งๆ บ้าง) เหมือนบ้านไม้ชั้นเดียว การประดับต่างๆ เช่น คันทวย ช่อฟ้า ใบระกา หน้าบัน ไม่มี ถือว่าเป็นหอไตร ที่เรียบง่ายที่สุดหลังหนึ่ง

      ใบเสมาหินทวารวดี
      ใบเสมาหินทั้งหมดที่วัดศรีธรรมาราม ได้เคลื่อนย้ายมาจากธาตุก่องข้าวน้อย หรือพระธาตุถาดทอง, ตาดทอง ในปัจจุบัน มีภาพสลักใบเสมาที่ แสดงให้เห็นคื อหม้อซ้อนกันเป็นเถาต่อยอดด้วยกรวยแหลม ซึ่งหม้อและกรวย ทั้งสองส่วนนี้ทำให้นึกถึงบายศรีหรือกรวยที่ใช้บวงสรวงบูชาตามที่พบเห็นในปัจจุบัน และยังมีอีกประเด็นที่ทำให้นึกถึงภาชนะดินเผาสำหรับใส่เครื่องเซ่นอุทิศให้กับผู้ตาย ซึ่งพบในหลุมศพตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมา ลวดลายยังคงชัดเจน ไม่เลือนหาย

      รอยพระพุทธบาท วัดศรีธรรมมาราม
     รอยพระพุทธบาท หรือพระพุทธบาทจำลองชัยชนะสงคาม หรือบาทข้างขวาจำลองทำจากศิลาทรายจากริมน้ำทวน สร้างสมัยต้นรัตนโกสินทร์ โดย อุปฮาด เจ้าแพง เมืองยศสุนทร สมัยนั้นรอยพระพุทธบาทจำลองชัยชนะสงครามหรือรอยพระบาทข้างขวา เจ้าอุปฮาด แพง มีศรัทธาสร้างไว้ประดิษฐาน ณ วัดใต้ศรีมงคล ต่อมาวัดได้ร้าง เจ้าอุปฮาดจึงได้ทำสถูปแบบเจดีย์ 9 ยอด บนฐานเดิมปรางค์เจนละสมัยขอมโบราณแล้วนำรอยพระพุทธบาท มาไว้ในสถูปใหม่นี้ และเมื่อแม่ทัพและทหารเมืองยศสุนทรจะออกรบครั้งใดจะมาทำพิธีบูชาก่อนทุกครั้ง จึงได้ชัยชนะทุกครั้ง จึงได้นามว่า..รอยพุทธบาทชัยชนะสงคาม ต่อมาสำนักสงฆ์ทุ่งสว่างชัยภูมิ ได้ร้างลงอีกชาวบ้านเมืองและกรมการเมือง เห็นพร้อมอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดศรีธรรมมาราม ปัจจุบัน และสร้างหอศาลาและพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางมารวิชัย ครอบไว้




     

พิพิธภัณฑ์พระเทพสังวรญาณ ถ่ายภาพเมื่อ : 21 กุมภาพันธ์ 2559
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
วัดศรีธรรมมาราม
 Isan Upload
หลวงพ่อพระสุก ถ่ายภาพเมื่อ : 21 กุมภาพันธ์ 2559
 Isan Upload
หอไตรกลางน้ำ วัดศรีธรรมาราม ถ่ายภาพเมื่อ : 21 กุมภาพันธ์ 2559
 Isan Upload
ใบเสมาหินทวารวดี ถ่ายภาพเมื่อ : 21 กุมภาพันธ์ 2559



สถานที่ตั้ง : วัดศรีธรรมาราม (วัดหลวงตาพวง) คุ้มบ้านท่าศรีธรรม อ.เมือง จ.ยโสธร
ถ่ายภาพเมื่อ : 21 กุมภาพันธ์ 2559
วันติดตั้งหน้าเว็บ : 22 กุมภาพันธ์ 2559
จำนวนผู้เข้าชม : 4398 ครั้ง
หมายเหตุ : เว็บมาสเตอร์เดินทางไปชมและถ่ายภาพเอง, ข้อมูลจาก ป้ายประชาสัมพันธ์ภายในวัด, m-culture.in.th, และเรียบเรียงขึ้นเอง


22-02-2016 Views : 4399
      ร่วมกันสนับสนุนเว็บไซต์นี้ ทำได้ง่ายๆ ด้วยการคลิกลิงค์ด้านล่าง... ขอบคุณครับ



ออกแบบโลโก้ ออกแบบกล่อง ออกแบบถุง ออกแบบสิ่งพิมพ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ วาดเส้น จิตรกรรม Drawing  Painting รับทำ SEO, ปั่นเว็บ, หน้า 1, อันดับ 1 ฮูปแต้ม, สิมอีสาน, ฮูบแต้ม, ศิลปะอีสาน, สิม, โบสถ์, หอไตร, สถาปัตยกรรมอีสาน
9809/1 Anankanak Rd., Tambol Kalasin, Amphoe Muang, Kalasin Province 46000 Thailand
www.artnana.com

3.239.87.20 =    Wednesday 06th November 2024
 IP : 3.239.87.20   คนที่กำลังอ่าน   Bookmark and Share   
Russia รัสเซีย  เรียนรัสเซีย  ภาษารัสเซีย ตุ๊กตารัสเซีย ของฝากรัสเซีย