ความสำคัญของท่าน้ำวัดสุปัฏนารามวรวิหาร
1. ชื่อวัดสุปัฏนาราม เกิดจากคำ 3 คำ คือ สุ + ปัฏนะ + อาราม
สุ แปลว่า ดี, งาม,
ปัฏนะ แปลว่า ท่าน้ำ, ท่าเรือ
อาราม แปลว่า วัด
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร จึงแปลว่าวัดที่มีท่าน้ำ หรือท่าเรือที่ดี สะดวกในการขึ้นลงเรือ
2. ท่าน้ำวัดสุปัฏนาราม เมื่อครั้งแรกสร้างวั เป็นที่ตั้งของ อุทกุกเขปสีมา หรือเรียกว่า โบสถ์กลางน้ำ ซึ่งเป็น "เขตสามัคคีชั่ววักน้ำสาด" แห่งคนมีอายุและกำลังปานกลาง หมายถึงเขตชุมนุมทำสังฆกรรม ที่กำหนดลงในแม่น้ำหรือทะเล ชาตสระ (ที่ขังน้ำเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น บึง หนอง ทะเลสาบ) โดยพระภิกษุประชุมกันบนเรือหรือบนแพ ซึ่งผูกกับหลักในน้ำหรือทอดสมอ อยู่ห่างตลิ่งชั่ววิดน้ำสาด (ห้ามผูกโยงเรือหรือแพนั้นกับหลักหรือต้นไม้ริมตลิ่ง และห้ามทำในเรือหรือบนแพที่กำลังลอยหรือเดิน) พระภิกษุวัดสุปัฏนารามในสมัยก่อน ทำสังฆกรรม เช่น อุปสมบท เป็นต้น ที่แพท่าน้ำวัดสุปัฏนารามแห่งนี้
3. ท่าน้ำวัดสุปัฏนาราม เป็นท่าลงเรือเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนในกรุงเทพมหานคร ที่เป็นปูชนียบุคคลของเมืองอุบลราชธานี เช่น
1. เจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
2. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส)
3. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธัมมธโร)
4. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จันทปัชโชโต)
5. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร)
4. ปัจจุบันท่าน้ำวัดสุปัฏนาราม เป็นเขตอภัยทานของสัตว์น้ำนานาชนิด เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาแม่น้ำมูล เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของสาธุชนชาวอุบลราชธานี
ใบเสมาทวารวดี ที่วัดสุปัฏนาราม
คำว่า " เสมา " เป็นศัพท์ในภาษาไทย ที่มาจากคำว่า สีมา ในภาษาบาลี-สันสกฤต หมายถึง หลักเขตทำสังฆกรรม (โบสถ์) นักวิชาการเรียกแท่งศิลาหรือแผ่นศิลา มีอายุก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 พบในภาคอีสาน
ประวัติที่มา สันนิษฐานว่า สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสโส อ้วน) นำมาจากบ้านตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร
วัสดุ ศิลาทราย
ขนาด สูงรวมฐาน 234 เซนติเมตร ฐานกว้าง 101 เซนติเมตร หนา 38 เซนติเมตร
ศิลปะ ทวารวดีภาคอีสาน
ใบเสมานี้ มีการสลักตกแต่งทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งสลักเป็นรูปเส้นตรงยาวเหลี่ยมขึ้นด้านบน ส่วนล่างสลักเป็นหม้อน้ำกลม สันนิษบษนว่า เป็นภ่พหม้อปูรณฆฏะ อีกด้านหนึ่งที่ฐานสลักเป็นลายดอกจิกแล้วมีรูปเส้นตรงยาว ที่ฐานใบเสมาแกะสลักเป็นรูปกลีบบัว
อายุ อยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 14-17
ทะเบียน กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่มิได้อยู่ในความครอบครองของกรมศิลปากร ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 107 ตอนที่ 9 หน้าที่ 14 วันที่ 12 มกราคม 2533
ผู้ครอบครอง วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
|
|
ประวัติวัดสุปัฎนารามวรวิหาร
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการเมืองอุบลราชธานี ซึ่งมีพระพรหมราชวงศ์ (กุทอง) เป็นประธานเลือกพื้นที่สร้างวัดดังนี้
1. เริ่มลงเมือปราบที่เมื่อ พ.ศ. 2393
2. ประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2396 โดยพระราชทานนามว่า วัดสุปัฏนาราม
3. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้ายกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิด "วรวิหาร" นามว่า วัดสุปัฏนารามวรวิหาร เมื่อ พ.ศ. 2478
4. วัดนี้มีพื้นที่ 21 ไร่ 38 ตารางวา
5. เจ้าอาวาส ในอดีต-ปัจจุบัน
1. พระอธิการดี พันธุโล
2. พระอธิการเพ็ง
3. พระอธิการเพชร
4. พระอธิการสีโห
5. พระอธิการสี
6. พระญาณรักขิต (สิริจันโท จันทร์ สุภสร)
7. พระโพธิวงศาจารย์ (ติสโส อ้วน แสนทวีสุข)
8. พระครูประจักษ์ อุปบลคุณ (ญาณาสโย สุ่ย)
9. พระธรรมบัณฑิต (ญาณชาโร ญาณ คาโรจน์)
10. พระโพธิญาณมุนี (ปภาโส ภา คูณเมือง)
12. พระวิจิตรธรรมภาณี (สุขปุญโญ สิงห์ คูณพัน)
13. พระรัตนมงคลมุนี (ตปนิโย ยงยุทธ นาแพง)
14. พระวิบูรธรรมาภรณ์ (ชาคโร ชาย ทับทอง) พ.ศ 2554
ประวัติย่อพระอุโบสถ
1. ผู้เขียนแบบแปลน คือ หลวงสถิตนิมานการ (ชวน สุปิยพันธ์)
2. ร่วมเตรียมจัดหาสัมภาระ พ.ศ. 2460
3. ลงมือก่อสร้าง พ.ศ. 2463
4. สร้างเสร็จ (ส่วนหยาบ) พ.ศ. 2473
5. ติดดวงดาวเพดาน พ.ศ. 2478
6. จัดงานฉลองและผูกพัทธสีมา พ.ศ. 2479
7. สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 70,000.00 บาท
8. ขนาดความยาว 35 เมตร กว้าง 21 เมตร
9. พระประธานในพระอุโบสถนามว่า " พระสัพพัญญูเจ้า "
ถ่ายภาพเมื่อ : 11 พฤศจิกายน 2556
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร |
|
|
|
|
ถ่ายภาพเมื่อ : 18 ธันวาคม 2560
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้านการศาสนา มี “พระอุโบสถ” เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสาน โดยหลังคาเป็นแบบไทย ส่วนกลางของตัวพระอุโบสถเป็นแบบยุโรป (เยอรมัน) ส่วนฐานสร้างแบบขอมโบราณ
ลักษณะโดดเด่นอีกประการ คือ ตัวพระอุโบสถไม่มีหน้าต่าง แต่ทำเป็นประตูโดยรอบ มีขนาดกว้าง 20 เมตร ยาว 34 เมตร สูง 22 เมตร สำหรับสถาปนิกผู้ออกแบบพระอุโบสถหลังใหม่นี้ คือ หลวงสถิตย์นิมานกาล (ชวน สุปิยพันธุ์) นายช่างทางหลวงแผ่นดิน สร้างตั้งแต่ พ.ศ.2473 แล้วเสร็จ พ.ศ.2473 สิ้นค่าก่อสร้าง 70,000 บาท
ส่วนพระอุโบสถหลังเดิม มีขนาดกว้าง 8 ศอก ยาว 11 วา 2 ศอก สร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ด้วยพระอุโบสถหลังเก่าได้ชำรุดทรุดโทรม ยากแก่การบูรณปฏิสังขรณ์ จึงได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่นี้ขึ้นแทน
สถานที่ตั้ง : วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ถนนวัดสุปัฏน์ อ. เมือง จ.อุบลราชธานี
พิกัด : 15.227397, 104.853454
ถ่ายภาพเมื่อ : 11 พฤศจิกายน 2556, 18 ธันวาคม 2560
วันติดตั้งหน้าเว็บ : 9 มีนาคม 2559
อัพเดทเมื่อ : 28 ธันวาคม 2560
จำนวนผู้เข้าชม : 3123 ครั้ง
ข้อมูลจาก : จากรึกหินอ่อนที่พระอุโบสถ, lukhamhan.ac.th, guideubon.com
หมายเหตุ : เว็บมาสเตอร์เดินทางไปชมและถ่ายภาพเอง
|